วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

Culture-วัฒนธรรมเกาหลี


วัฒนธรรมเกาหลี

 หลักๆที่น่าสนใจนะคะ จะมี 20 ประการได้แก่


  • ชุดประจำชาติเกาหลีหรือชุดฮันบก
    คำว่า "한복"(ฮันบก) ถ้าแปลตามตัวอักษร "한"(ฮัน) หมายถึง ชาวเกาหลี  และ "복"(บก) หมายถึง ชุดหรือเสื้อผ้า ดังนั้นเมื่อนำมารวมกันจึงหมายถึง ชุดของชาวเกาหลีนั่นเอง
          ชุดฮันบก มีหลายลักษณะ ซึ่งจะออกแบบตามฤดูกาล เช่น ฮันบกในฤดูร้อนกับฮันบกในฤดูหนาว ความหนาของเนื้อผ้าและชุดจะต่างกัน ชุดฮันบกของผู้สูงอายุกับวัยรุ่นหรือเด็กๆ ก็จะมีลักษณะที่ต่างกันด้วย เช่น ฮันบกของผู้อาวุโส จะเป็นสีพื้นหรือสีทึบเข้ม ส่วนฮันบกของวัยรุ่นหรือเด็กๆ จะมีหลากสีสัน ซึ่งในปัจจุบันยังได้มีการนำชุดฮันบกมาประยุกต์ให้เข้ากับแฟชั่นอีกด้วย เช่น 한복 미니 드레스 จะเป็นชุดฮันบกที่กระโปรง(치마)จะสั้นขึ้น และเสื้อท่อนบน(저고리)อาจจะสั้นขึ้นหรือกลายเป็นเพียงเกาะอก นอกจากนั้นชุดฮันบกยังสามารถบอกสถานะภาพของสตรีผู้สวมใส่อีกด้วย กล่าวคือ หากชุดฮันบกที่สตรีผู้นั้นสวมใส่มีสีสันหลากหลาย และมีแถบสีที่แขนหลายๆ แถบ แสดงให้เห็นว่าสตรีผู้นั้นยังโสด หรือยังไม่ได้แต่งงานนั่นเอง แต่หากสตรีผู้นั้น สวมใส่ชุดฮันบกที่เป็นสีพื้นธรรมดาหรือสีทึบ จะแสดงให้เห็นว่าเธอแต่งงานแล้ว แต่ก็ไม่เสมอไปหรอกนะคะ รู้สึกว่าแค่เป็นที่นิยมเท่านั้นเอง ที่สำคัญชาวเกาหลีจะไม่ใส่ชุดฮันบกสีขาว เพราะจะหมายถึง ชุดไว้ทุกข์ค่ะ โดยจะมีชุดที่น่าสนใจดังนี้คะ

ชุดฮันบกเจ้าบ่าว

ชุดฮันบกเจ้าสาว

ชุดฮันบกคุณแม่ 
ชุดฮันบกคุณแม่จะเป็นสีพื้นเรียบๆ หรือสีทึบเข้ม แสดงให้เห็นว่าเป็นสตรีที่สวมใส่แต่งงานแล้ว


ทลฮันบก
ชุดฮันบกสำหรับเด็กๆ ที่มีอายุครบ 1 ปี ในวันนั้นจะมีการเลี้ยงฉลอง

ฮันบกที่นำมาประยุกต์ให้เข้ากับชุดเดรส

ฮันบกที่นำมาประยุกต์ให้เข้ากับชุดมินิเดรส

  • กิมจิและบุลโกกิ
กิมจิ

บุลโกกิหรือพุลโกกิ

            กิมจิมีพัฒนาการมาจากการถนอมอาหารโดยภูมิปัญญาก้นครัวของชาวเกาหลี
โดยวิธีการหมักดองและกิมจินั้นได้ถือกำเกิดมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7 ของประเทศเกาหลี 
โดยชาวเกาหลีได้หมักดองกิมจิไว้สำหรับรับประทานในหน้าหนาวและนิยมรับประทานกับอาหารทุกมื้อและนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารอีกหลายอย่างเช่น ข้าวต้ม ข้าวสวย ซุป บะหมี่ ข้าวผัด พิซซ่าและแฮมเบอร์เกอร์ซึ่งโดยคนส่วนใหญ่แล้วมักจะคิดว่าจะมีแต่ผักกาดขาวหรือกระหล่ำปลีเท่านั้น
แต่จริงๆแล้วชาวเกาหลีได้นำผักหลายชนิดมาใช้ในการทำกิมจิอาทิ เช่น ขิง หัวไชเท้า แตงกวา  หัวหอม เป็นต้น กิมจินั้นได้มีการพิสูจน์กันทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นอาหารบำรุงอย่างดี ซึ่งปัจจุบันนี้กิมจิมีมากกว่า 187 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมีรสเปรี้ยว เผ็ด และ มีกลิ่นฉุนปัจจุบันได้มีการส่งออกของกิมจินั้นเป็นจำนวนมากขึ้นและกิมจิได้กลายเป็นอาหารของโลกไปแล้ว      

           พุลโกกิป็นเนื้อย่างเกาหลีอันเลื่องชื่อ ลักษณะเป็นเนื้อวัวย่างซึ่งได้รับการพิถีพิถันเป็นอย่างดีในการหมักซึ่งเวลารับประทานจะต้องมีเครื่องเคียงประกอบเช่น กิมจิอย่างน้อย 5 ชนิด ผักสด ซุปและข้าวสวยร้อนๆไว้ทานคู่กัน

  • อักษรเกาหลี
     


     หรืออักษรฮันกึล ได้ประดิษฐ์โดยพระเจ้าเซจง (พ.ศ. 1940 - 1993 ครองราชย์ พ.ศ. 1961 - 1993) กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โชซ็อนของเกาหลี แต่นักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตว่าการประดิษฐ์อักษรเป็นงานที่ซับซ้อน อาจเป็นฝีมือของกลุ่มบัณฑิตสมัยนั้นมากกว่า แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้แสดงว่าบัณฑิตในสมัยนั้นต่างคัดค้านการใช้ตัวอักษรใหม่แทนตัวอักษรฮันจา ดังนั้น จึงได้มีการบันทึกว่าอักษรฮันกึลเป็นผลงานของพระเจ้าเซจงแต่เพียงพระองค์เดียว นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานบางอย่างที่แสดงว่าพระญาติของพระเจ้าเซจองได้มีส่วนร่วมอย่างลับ ๆ ในการประดิษฐ์อักษร เพราะประเด็นนี้ในสมัยนั้นเป็นข้อขัดแย้งระหว่างบัณฑิตอย่างมาก โดยอักษรฮันกึลได้ประดิษฐ์เสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 1986 และถูกตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 1989 (ค.ศ. 1446) ในเอกสารที่ชื่อว่า "ฮุนมิน จองอึม" (ฮันกึล: 훈민정음, ฮันจา: 訓民正音; Hunmin Jeong-eum) หรือแปลว่า เสียงอักษรที่ถูกต้องเพื่อการศึกษาสำหรับประชาชน ซึ่งในวันที่ 9 ตุลาคม ของทุกปี ทางการเกาหลีใต้ได้ประกาศให้เป็น วันฮันกึล ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ



วันนี้ทุกคนคงอ่านตาแฉะแล้วเอาไว้เรามาเจอกันใหม่นะคะ อันยองอีกครั้งคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น